บทที่
1
บทนำ
1.1 ที่มาและความสำคัญของโครงงาน
จากที่ได้ศึกษาเรื่องพื้นที่ผิว และปริมาตร จากบทเรียน
และเห็นว่าเวลาทำรายงานส่งครูแล้ว ก็ไม่ได้ใช้ทำอะไร ส่วนใหญ่ก็ทิ้งไปเฉยๆ
น่าเสียดาย จึงมีความคิดว่าถ้าเรานำกระดาษรายงานส่วนปกที่จะต้องทิ้งไปมาใช้ให้เกิดประโยชน์ในการเรียนได้
จึงนำความรู้ที่ได้จากบทเรียนมากำหนดโจทย์ แล้วทำการทดลองสร้างปริซึมฐานต่างๆ ( ลูกบาศก์
ปริซึมฐานสามเหลี่ยม ปริซึมฐานสี่เหลี่ยมผืนผ้า ปริซึมห้าเหลี่ยม
และ ปริซึมหกเหลี่ยม ) ที่มีขนาดต่างกันไป ว่าปริซึมฐานใด
และขนาดเท่าไร ที่จะมีปริมาตรมากที่สุด
และมีขยะจากเศษกระดาษเหลือทิ้งน้อยที่สุด
1.2 จุดประสงค์การทำโครงงาน
เพื่อศึกษาเปรียบเทียบระหว่าง
ลูกบาศก์ ปริซึมฐานสามเหลี่ยม
ปริซึมฐานสี่เหลี่ยมผืนผ้า ปริซึมห้าเหลี่ยม
และ ปริซึมหกเหลี่ยม ว่ารูปทรงชนิดใดสามารถจุสิ่งของได้มากที่สุด
และ
สามารถนำความรู้ในการสร้างกล้องให้มีปริมาตรสูงสุดไปใช้ในชีวิตประจำวันได้
ในการคิดคำนวณ เพื่อที่จะไม่เป็นการสิ้นเปลืองวัสดุให้เสียเปล่าน้อยที่สุด
ซึ่งเป็นการหยัดต้นทุนและไม่เกิดความเสียหายจากการซื้อวัสดุมามากเกินความจำเป็น
1.3 ขอบเขตของโครงงาน
1.ลูกบาศก์
2.ปริซึมฐานสามเหลี่ยม
3.ปริซึมฐานสี่เหลี่ยมผืนผ้า
4.ปริซึมห้าเหลี่ยม
5.ปริซึมหกเหลี่ยม
1.4 วิธีการดำเนินการ
1. วางแผนแล้วและวางเค้าโครง
2.
เก็บรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องจากแหล่งข้อมูลต่างๆ เช่นห้องสมุด
วารสาร สื่อสิ่งพิมพ์รวมทั้งข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต
3. ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลที่รวบรวมได้ แล้วจัดสรรข้อมูลที่หามาได้
มาเรียงลำดับความสำคัญ จำแนกและวิเคราะห์ผลการศึกษา
4.
จัดพิมพ์ตัวร่างโครงงานและสื่อประกอบต่างๆนำเสนอครูที่ปรึกษาโครงงานเพื่อตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้ง
5. นำเสนอผลการศึกษาโครงงานในห้องเรียน
เพื่อให้ผู้ชมสอบถามและตอบข้อสักถามความคิดเห็นเป็นที่ประจักษ์พร้อมกับประเมินผลการทำงาน
1.5 นิยามศัพท์เฉพาะ
ปริซึมฐานต่างๆ หมายถึง
ลูกบาศก์ ปริซึมฐานสามเหลี่ยม
ปริซึมฐานสี่เหลี่ยม
ผืนผ้า ปริซึมหกเหลี่ยม ที่ทำจากกระดาษปกรายงานที่ใช้แล้ว
ปริมาตร
หมายถึง สิ่งที่ได้จากการคำนวณโดยใช้สูตร การหาปริมาตร ของปริซึมฐาน
ต่างๆ
บทที่
3
วิธีการดำเนินงานโครงงาน
3.1 วัสดุ , อุปกรณ์
1. กระดาษ ( ปกรายงานที่ใช้แล้ว)
2. ดินสอ / ปากกา
3. ไม้บรรทัด
4. ยางลบ
5. กาว
3.2 ขั้นตอนการดำเนินโครงงาน
1. รวบรวมข้อมูลเนื้อหาจากแหล่ง ห้องสมุด อินเตอร์เน็ต เป็นต้น
2. นำข้อมูลที่ได้มาตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล
เรียบเรียงความสำคัญของข้อมูล จำแนกและวิเคราะห์เนื้อหาข้อมูล
3. จัดทำตัวร่างโครงงานและสื่อประกอบต่างๆ
3.3 วิธีการดำเนินงาน
1. สร้างแบบ ( ภาพคลี่
) ของปริซึมฐานต่างๆ ทีละแบบ
ต่างขนาดกัน
2. นำแบบที่สร้างเสร็จเรียบร้อยแล้วมาประกอบเป็นปริซึมฐานต่างๆ
ทีละแบบ ต่างขนาดกัน
3. บันทึก ขนาดที่ใช้ การทดลองแต่ละครั้ง
และจัดเก็บเศษที่เหลือแต่ละครั้ง ไว้เป็นหมวดหมู่ชัดเจน
4. นำขนาดที่ได้จากการทดลองมาคำนวณหาปริมาตร ของปริซึม และคำนวณหาพื้นที่ของเศษกระดาษที่เหลือ
บันทึกผลการทดลอง
ผลการดำเนินการ
ตารางที่ 1 แสดงการเปรียบเทียบผลการทดลอง
(ผลการคำนวณหา ปริมาตรของรูปทรงเรขาคณิต และผลการชั่งเศษกระดาษที่เหลือทิ้ง
)
กล่องรูปทรงเรขาคณิต
|
ปริมาตร
ดาษกระดาษที่เหลือ
(กรัม)
โดยประมาณ
|
||||
กล่อง
|
ขนาด
(ซม.)
|
ปริมาตร
(กรัม)
โดยประมาณ
|
|||
กว้าง
a
|
ยาว
b/h1
|
สูง
h/h2
|
|||
1. ลูกบาศก์
|
6
|
6
|
6
|
216
|
A4 -
216
|
2. ปริซึมฐานสามเหลี่ยม
|
7
|
7
|
7
|
149
|
A4 -
189
|
8
|
8
|
5
|
139
|
A4 -
247
|
|
3. ปริซึมฐานสี่เหลี่ยมผืนผ้า
|
4
|
6
|
13
|
312
|
A4 -
308
|
5
|
7
|
9
|
315
|
A4 -
205
|
|
4. ปริซึมฐานห้าเหลี่ยม
|
5
|
5
|
5
|
219
|
A4 -
250
|
6
|
5
|
4
|
240
|
A4 -
275
|
|
5. ปริซึมฐานหกเหลี่ยม
|
3
|
3
|
9
|
210
|
A4 -
234
|
4
|
4
|
6
|
249
|
A4 -
216
|
|
บทที่ 5
สรุปผลการดำเนินงาน
5.1 สรุป
ผลการเปรียบเทียบระหว่าง
ลูกบาศก์ ปริซึมฐานสามเหลี่ยม ปริซึมฐานสี่เหลี่ยมผืนผ้า
ปริซึมห้าเหลี่ยม และ
ปริซึมหกเหลี่ยม ผลปรากฏว่ารูปทรงที่มีปริมาตรมากที่สุดคือ
รูปทรงปริซึมฐานสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาด ……..รองลงมาเป็น……..ตามลำดับ
5.2 ข้อเสนอแนะ
1. ในการทดลองเราอาจเปลี่ยนจากการสร้างกล่องรูปทรงปริซึมอย่างเดียว
โดยการเพิ่ม พีระมิด ทรงกระบอก ทรงกรวย และทรงกลม เข้าไปด้วยก็ได้
2. ในการทดลองเราอาจเปลี่ยนจากการสร้างกล่องจากกระดาษจริง
เป็นการสร้างโดยใช้โปรมแกรม GSP แทน
3. จากผลการทดลองสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริงในชีวิตประจำวัน
ไม่ว่าจะเป็นการก่อสร้างอาคาร บ้านเรือน
การปูกระเบื้อง และอื่นๆ อีกมากมาย
อ้างอิง
การประดิษฐ์รูปทรงเรขาคณิตสามมิติ จากรูปเรขาคณิตสองมิติหรือรูปคลี่ .... 3. รูปเรขาคณิตสามมิติหรือรูปทรง เป็นรูปที่มี ความกว้าง ความยาว
ภาคผนวก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น